เวอร์มิคูไลต์ (Vermiculite)
ช่วยปรับปรุงคุณสมบัติของดินและเป็นวัสดุปลูกที่ดี
เวอร์มิคูไลต์ (Vermiculite) เป็นแร่ซิลิเกตที่มีลักษณะเป็นแผ่นคล้ายไมกา เมื่อได้รับความร้อนสูงจะเกิดการขยายตัวอย่างมาก (exfoliation) คล้ายกับตัวหนอน (ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "vermiculite" จากภาษาละติน "vermiculus" แปลว่า "หนอนน้อย") ทำให้มีลักษณะเป็นเกล็ดพรุน น้ำหนักเบา และมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์หลายประการในการเกษตร

คุณสมบัติที่สำคัญของเวอร์มิคูไลต์ทางการเกษตร:
- การกักเก็บน้ำและความชื้นสูง: เวอร์มิคูไลต์สามารถดูดซับน้ำได้มากถึง 3-4 เท่าของน้ำหนักตัวเอง และค่อยๆ ปล่อยความชื้นออกมา ทำให้พืชได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอ ลดความถี่ในการรดน้ำ
- การระบายอากาศที่ดี: โครงสร้างที่เป็นเกล็ดและมีรูพรุนช่วยเพิ่มช่องว่างในดิน ทำให้มีการถ่ายเทอากาศได้ดี รากพืชได้รับออกซิเจนเพียงพอ
- การกักเก็บธาตุอาหาร: เวอร์มิคูไลต์มีคุณสมบัติในการแลกเปลี่ยนประจุบวก (Cation Exchange Capacity - CEC) สูง ทำให้สามารถกักเก็บธาตุอาหารที่จำเป็นต่อพืช เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียม และค่อยๆ ปลดปล่อยให้พืชนำไปใช้ได้
- ความเป็นกลางทางเคมี (pH เป็นกลาง): ไม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นกรด-ด่างของดิน
- ปราศจากเชื้อโรคและวัชพืช: ผ่านกระบวนการผลิตที่ความร้อนสูง ทำให้เวอร์มิคูไลต์สะอาด ปราศจากเชื้อโรคและเมล็ดวัชพืช
- น้ำหนักเบา: ทำให้ดินปลูกมีน้ำหนักเบา ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายกระถาง
- เป็นฉนวน: ช่วยรักษาอุณหภูมิของดินให้คงที่ ไม่ร้อนหรือเย็นจัดจนเกินไป

การใช้งานของเวอร์มิคูไลต์ในการเกษตร:
- เป็นส่วนผสมในดินปลูก: ผสมเวอร์มิคูไลต์กับดิน พีทมอส หรือวัสดุปลูกอื่นๆ เพื่อปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มการระบายน้ำและการกักเก็บความชื้นและธาตุอาหาร เหมาะสำหรับไม้กระถาง ไม้ดอก ไม้ประดับ และพืชผัก
- ใช้ในการเพาะเมล็ด: เวอร์มิคูไลต์เป็นวัสดุที่สะอาดและรักษาความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับการเพาะเมล็ด ช่วยให้เมล็ดงอกได้ดีและสม่ำเสมอ สามารถโรยบางๆ บนหน้าดินหลังหว่านเมล็ดเพื่อรักษาความชื้น
- ใช้ในการปักชำ: เวอร์มิคูไลต์เป็นวัสดุที่ช่วยให้เกิดรากได้ดี เนื่องจากมีความชื้นและอากาศที่เหมาะสม สามารถใช้เวอร์มิคูไลต์อย่างเดียว หรือผสมกับวัสดุอื่นๆ ในการปักชำ
- ใช้ในการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์: เวอร์มิคูไลต์สามารถใช้เป็นวัสดุปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์ได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำและอากาศที่ดี
- ใช้เป็นวัสดุคลุมดิน (Mulch): โรยเวอร์มิคูไลต์บนหน้าดินรอบโคนต้น ช่วยรักษาความชื้น ลดการระเหยของน้ำ และควบคุมอุณหภูมิดิน
- ใช้ในการเก็บรักษาหัวและราก: เวอร์มิคูไลต์สามารถใช้ห่อหุ้มหัวและรากของพืชในช่วงพักตัว เพื่อป้องกันการสูญเสียความชื้นและการเน่าเสีย

ข้อควรระวัง:
- ฝุ่นเวอร์มิคูไลต์: ในขณะที่ทำการผสมหรือใช้งาน ควรระมัดระวังไม่ให้สูดดมฝุ่นเวอร์มิคูไลต์เข้าไปโดยตรง ควรใส่ผ้าปิดปากหรือหน้ากาก
- ความแตกต่างระหว่างเพอร์ไลต์และเวอร์มิคูไลต์: แม้ว่าทั้งสองอย่างจะช่วยปรับปรุงดิน แต่เพอร์ไลต์เน้นการระบายน้ำและการเพิ่มอากาศมากกว่า ในขณะที่เวอร์มิคูไลต์เน้นการกักเก็บน้ำและความชื้นมากกว่า การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชและความต้องการของดิน

เวอร์มิคูไลต์เป็นวัสดุที่มีประโยชน์อย่างมากในการเกษตร ช่วยปรับปรุงคุณสมบัติของดินและเป็นวัสดุปลูกที่ดี ทำให้พืชเจริญเติบโตแข็งแรงและให้ผลผลิตที่ดี

เวอร์มิคูไลต์ (Vermiculite)

เวอร์มิคูไลต์ (Vermiculite)

PGS นครศรีธรรมราช
ศูนย์เรียนรู้

เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ PGS นครศรีธรรมราช ขับเคลื่อนโดย สมาคมอาหารธรรมชาติยั่งยืน นครศรีธรรมราช

รายละเอียด >>

  • ที่อยู่ : ตำบลควนกลาง อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช
  • โทร : 0816577283