หินภูเขาไฟเพอร์ไลต์
ช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมของดินให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืช

หินภูเขาไฟเพอร์ไลต์ (Perlite) คือ แก้วภูเขาไฟอสัณฐาน (amorphous volcanic glass) ที่มีปริมาณน้ำค่อนข้างสูง โดยทั่วไปเกิดจากการเกิดปฏิกิริยาไฮเดรชันของหินออบซิเดียน (obsidian) เพอร์ไลต์เป็นแร่ธาตุทางอุตสาหกรรมที่มีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถขยายตัวได้อย่างมากเมื่อได้รับความร้อนถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม
คุณสมบัติที่สำคัญของเพอร์ไลต์:
- น้ำหนักเบา: เพอร์ไลต์ดิบมีความหนาแน่นประมาณ 1,100 กก./ม³ แต่เมื่อขยายตัวแล้วจะมีความหนาแน่นเพียง 30-150 กก./ม³
- การขยายตัว: เมื่อได้รับความร้อนถึง 850-900 °C น้ำที่กักเก็บอยู่ในโครงสร้างของเพอร์ไลต์จะระเหยกลายเป็นไอ ทำให้เพอร์ไลต์ขยายตัวได้ 7-16 เท่า หรือบางครั้งอาจมากถึง 20 เท่าของปริมาตรเดิม
- สี: เพอร์ไลต์ดิบมักมีสีเทา แต่ก็อาจมีสีเขียว น้ำตาล ฟ้า หรือแดงได้ หลังจากการขยายตัว เพอร์ไลต์จะมีสีขาวสว่างเนื่องจากการสะท้อนของฟองอากาศที่กักอยู่ภายใน
- ความเป็นฉนวน: เพอร์ไลต์ขยายตัวมีคุณสมบัติเป็นฉนวนความร้อนและเสียงที่ดี
- ความพรุน: โครงสร้างของเพอร์ไลต์ขยายตัวมีความพรุนสูง สามารถกักเก็บน้ำและอากาศได้ดี
- ความเป็นกลางทางเคมี: เพอร์ไลต์มีค่า pH เป็นกลาง (6.5-8.0) และไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีอื่นง่าย
- ความทนทานต่อไฟ: เพอร์ไลต์เป็นวัสดุที่ไม่ติดไฟ (Fire class A1) และมีจุดหลอมเหลวสูง (+1260°C)
หินภูเขาไฟเพอร์ไลต์มีการใช้งานอย่างหลากหลายในการเกษตร เนื่องจากคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืช ดังนี้:
1. ปรับปรุงโครงสร้างดิน:
- เพิ่มความพรุนและการระบายน้ำ: เพอร์ไลต์มีโครงสร้างเป็นรูพรุนจำนวนมาก ช่วยเพิ่มช่องว่างในดิน ทำให้ดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ลดปัญหาน้ำขัง ซึ่งเป็นสาเหตุของรากเน่า
- เพิ่มการถ่ายเทอากาศ: ช่องว่างในเพอร์ไลต์ช่วยให้ออกซิเจนเข้าสู่รากพืชได้มากขึ้น ส่งผลให้รากแข็งแรงและเจริญเติบโตได้ดี
- ลดการอัดแน่นของดิน: การผสมเพอร์ไลต์ในดินเหนียวจะช่วยลดการจับตัวแน่นของดิน ทำให้รากพืชชอนไชได้ง่ายขึ้น
2. รักษาความชื้น:
- กักเก็บน้ำ: แม้ว่าเพอร์ไลต์จะช่วยในการระบายน้ำ แต่ก็สามารถกักเก็บความชื้นไว้ได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ทำให้พืชได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอ
- รักษาสมดุลระหว่างน้ำและอากาศ: เพอร์ไลต์ช่วยให้ดินมีความสมดุลระหว่างปริมาณน้ำและอากาศ ไม่ให้ดินแฉะหรือแห้งจนเกินไป
3. เป็นวัสดุปลูก:
- ใช้เป็นส่วนผสมในวัสดุปลูก: นิยมใช้ผสมกับดิน พีทมอส ขุยมะพร้าว หรือวัสดุปลูกอื่นๆ เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติทางกายภาพ
- ใช้ในการเพาะเมล็ดและปักชำ: เพอร์ไลต์เป็นวัสดุที่สะอาด ปราศจากเชื้อโรค และมีการระบายน้ำที่ดี เหมาะสำหรับการเพาะเมล็ดและการปักชำ ช่วยให้รากเจริญเติบโตได้ดี
- ใช้ในการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์: เพอร์ไลต์สามารถใช้เป็นวัสดุรองรับรากในระบบไฮโดรโปนิกส์ เนื่องจากมีน้ำหนักเบาและระบายน้ำได้ดี
4. คุณสมบัติอื่นๆ:
- ความเป็นกลางทางเคมี (pH 6.5-8.0): ไม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นกรด-ด่างของดิน และไม่เป็นอันตรายต่อพืช
- ปลอดเชื้อ: ผ่านกระบวนการผลิตที่อุณหภูมิสูง ทำให้ปราศจากเชื้อโรคและแมลง
- น้ำหนักเบา: ทำให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและจัดการ
- ทนทาน: ไม่ผุพังง่ายเหมือนวัสดุอินทรีย์อื่นๆ
ตัวอย่างการใช้งาน:
- ผสมในดินปลูก: ในอัตราส่วน 1:1 หรือ 2:1 (เพอร์ไลต์:ดิน) เพื่อปรับปรุงโครงสร้างดินสำหรับการปลูกไม้กระถาง ไม้ดอก ไม้ประดับ และพืชผัก
- ใช้ในการเพาะเมล็ด: โรยเมล็ดบนเพอร์ไลต์ที่ชื้น หรือผสมเพอร์ไลต์กับวัสดุเพาะอื่นๆ
- ใช้ในการปักชำ: ปักกิ่งชำในเพอร์ไลต์ที่ชื้น เพื่อกระตุ้นการเกิดราก
- โรยหน้าดิน: ช่วยในการระบายน้ำและลดการระเหยของน้ำจากผิวดิน
- ปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์: ใช้เพอร์ไลต์เป็นวัสดุปลูกในระบบต่างๆ เช่น ระบบน้ำหยด ระบบน้ำวน
โดยรวมแล้ว หินภูเขาไฟเพอร์ไลต์เป็นวัสดุที่มีประโยชน์อย่างมากในการเกษตร ช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมของดินให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืช ทำให้พืชแข็งแรงและให้ผลผลิตที่ดี

หินภูเขาไฟเพอร์ไลต์

หินภูเขาไฟเพอร์ไลต์

PGS นครศรีธรรมราช
เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ PGS นครศรีธรรมราช ขับเคลื่อนโดย สมาคมอาหารธรรมชาติยั่งยืน นครศรีธรรมราช
ที่อยู่ : ตำบลควนกลาง อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช
โทร : 0816577283