Common Objectives and Requirements of Organic Standards (COROS) เป็นกรอบแนวทางที่พัฒนาโดย International Task Force on Harmonization and Equivalence in Organic Agriculture (ITF) เพื่อส่งเสริมความสอดคล้องและความเท่าเทียมกันของมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ในระดับโลก กรอบ COROS มีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศ ลดอุปสรรค และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อินทรีย์ โดยมีวัตถุประสงค์และข้อกำหนดหลักดังนี้

 วัตถุประสงค์ทั่วไปของมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (COROS):

1. การปกป้องผู้บริโภค:

   - รับรองว่าผลิตภัณฑ์อินทรีย์เป็นไปตามมาตรฐานที่เชื่อถือได้และสม่ำเสมอ

   - ให้ข้อมูลที่โปร่งใสและชัดเจนแก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์อินทรีย์

2. ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม:

   - ส่งเสริมวิธีการทำเกษตรที่รักษาและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ความหลากหลายทางชีวภาพ และสมดุลของระบบนิเวศ

   - ลดการใช้สารสังเคราะห์และหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตราย

3. สวัสดิภาพสัตว์:

   - รับรองว่าการเลี้ยงสัตว์อินทรีย์เป็นไปตามมาตรฐานสูงด้านสุขภาพสัตว์ สวัสดิภาพสัตว์ และพฤติกรรมตามธรรมชาติ

4. ความเป็นธรรมทางการค้า:

   - อำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศด้วยการสร้างความสอดคล้องของมาตรฐานอินทรีย์และลดอุปสรรคทางเทคนิค

   - ส่งเสริมข้อตกลงความเท่าเทียมกันระหว่างประเทศหรือภูมิภาคที่มีมาตรฐานอินทรีย์แตกต่างกัน

5. ความสมบูรณ์ของระบบอินทรีย์:

   - รักษาความสมบูรณ์ของการผลิต การแปรรูป และการจัดการผลิตภัณฑ์อินทรีย์ผ่านระบบการรับรองและการควบคุมที่เข้มงวด

   - ป้องกันการฉ้อโกงและการติดฉลากผิดพลาดของผลิตภัณฑ์อินทรีย์

6. การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง:

   - ส่งเสริมการพัฒนาและการนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดมาใช้ในเกษตรอินทรีย์

   - สนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อปรับปรุงระบบเกษตรอินทรีย์

 ข้อกำหนดทั่วไปของมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (COROS):

1. วิธีการผลิต:

   - ห้ามใช้ปุ๋ยสังเคราะห์ สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม (GMOs)

   - กำหนดให้มีการปลูกพืชหมุนเวียน การจัดการความอุดมสมบูรณ์ของดิน และการควบคุมศัตรูพืชด้วยวิธีธรรมชาติ

   - รับรองว่าสัตว์ถูกเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อพฤติกรรมตามธรรมชาติ โดยมีอาหารอินทรีย์และพื้นที่กลางแจ้ง

2. การแปรรูปและการจัดการ:

   - จำกัดการใช้สารเติมแต่งและสารช่วยแปรรูปเฉพาะที่ได้รับการอนุมัติสำหรับการผลิตอินทรีย์

   - ป้องกันการปนเปื้อนจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อินทรีย์ระหว่างการแปรรูป การเก็บรักษา และการขนส่ง

3. การรับรองและการควบคุม:

   - จัดตั้งระบบการรับรองโดยบุคคลที่สามเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรฐานอินทรีย์

   - กำหนดให้มีการตรวจสอบและจัดทำเอกสารอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับและรับผิดชอบได้

4. การติดฉลากและการตลาด:

   - รับรองว่าฉลากอินทรีย์สะท้อนถึงปริมาณอินทรีย์ในผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้อง

   - ห้ามการอ้างสิทธิ์ที่ทำให้เข้าใจผิดและกำหนดให้มีการแยกความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์อินทรีย์และไม่ใช่อินทรีย์อย่างชัดเจน

5. ความรับผิดชอบต่อสังคม:

   - ส่งเสริมการปฏิบัติที่เป็นธรรมต่อแรงงานและการปฏิบัติต่อผู้ทำงานในระบบเกษตรอินทรีย์อย่างเท่าเทียม

   - สนับสนุนเกษตรกรรายย่อยและชุมชนท้องถิ่นในการนำวิธีการอินทรีย์มาใช้

6. ความเท่าเทียมและการยอมรับ:

   - พัฒนากลไกสำหรับการยอมรับความเท่าเทียมกันของมาตรฐานอินทรีย์ที่แตกต่างกัน

   - อำนวยความสะดวกในการทำข้อตกลงการยอมรับร่วมกันระหว่างประเทศหรือภูมิภาคเพื่อลดความซับซ้อนทางการค้า

 การนำไปปฏิบัติและการนำมาใช้:

- กรอบ COROS ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นแนวทางสำหรับรัฐบาล หน่วยงานรับรอง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับเกษตรอินทรีย์

- ประเทศและภูมิภาคสามารถปรับปรุงหลักการของ COROS ให้สอดคล้องกับบริบทเฉพาะของตน ในขณะที่ยังคงสอดคล้องกับมาตรฐานสากล

- กรอบนี้สนับสนุนการพัฒนาข้อตกลงความเท่าเทียมกัน ซึ่งช่วยให้ผลิตภัณฑ์อินทรีย์ที่ได้รับการรับรองภายใต้มาตรฐานหนึ่งสามารถได้รับการยอมรับในตลาดอื่นได้โดยไม่ต้องผ่านการรับรองใหม่

ด้วยการส่งเสริมความสอดคล้องและความเท่าเทียมกัน COROS มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างภาคเกษตรอินทรีย์ระดับโลก สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และสนับสนุนแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ยั่งยืนทั่วโลก

เนื้อหาหลักของ The IFOAM Norms for Organic Production and Processing 2014:

1. หลักการพื้นฐานของเกษตรอินทรีย์:

- หลักการด้านสุขภาพ (Health): เกษตรอินทรีย์ควรส่งเสริมและรักษาสุขภาพของดิน พืช สัตว์ มนุษย์ และโลกใบนี้

- หลักการด้านนิเวศวิทยา (Ecology): เกษตรอินทรีย์ควรสอดคล้องกับระบบนิเวศและวัฏจักรธรรมชาติ

- หลักการด้านความเป็นธรรม (Fairness): เกษตรอินทรีย์ควรสร้างความสัมพันธ์ที่ยุติธรรมระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

- หลักการด้านการดูแล (Care): เกษตรอินทรีย์ควรดำเนินการด้วยความระมัดระวังและความรับผิดชอบเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีของคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต

2. ข้อกำหนดสำหรับการผลิตพืชอินทรีย์:

- การจัดการดิน: ต้องใช้วิธีการที่รักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน เช่น การปลูกพืชหมุนเวียน การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ และการป้องกันการกัดเซาะของดิน

- การควบคุมศัตรูพืชและโรค: ต้องใช้วิธีการทางธรรมชาติ เช่น การควบคุมทางชีวภาพ การปลูกพืชหลากหลายชนิด และการเลือกพันธุ์พืชที่ทนทาน

- การห้ามใช้สารเคมีสังเคราะห์: ห้ามใช้ปุ๋ยเคมี สารกำจัดศัตรูพืชสังเคราะห์ และสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม (GMOs)

3. ข้อกำหนดสำหรับการเลี้ยงสัตว์อินทรีย์:

- สวัสดิภาพสัตว์: สัตว์ต้องได้รับการเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อพฤติกรรมตามธรรมชาติ มีพื้นที่กลางแจ้ง และได้รับอาหารอินทรีย์

- การจัดการสุขภาพสัตว์: ต้องใช้วิธีการป้องกันโรคและรักษาสุขภาพสัตว์ด้วยวิธีธรรมชาติ เช่น การใช้สมุนไพรและการจัดการฟาร์มที่ดี

- การห้ามใช้สารเร่งการเจริญเติบโตและยาปฏิชีวนะ: ห้ามใช้สารเคมีหรือยาที่ไม่จำเป็นในการเลี้ยงสัตว์

4. ข้อกำหนดสำหรับการแปรรูปอาหารอินทรีย์:

- การเลือกวัตถุดิบ: วัตถุดิบที่ใช้ในการแปรรูปต้องเป็นอินทรีย์และได้รับการรับรอง

- การจัดการกระบวนการแปรรูป: ต้องป้องกันการปนเปื้อนจากสารเคมีหรือวัตถุดิบที่ไม่ใช่อินทรีย์

- การใช้วัตถุเจือปนอาหาร: อนุญาตให้ใช้เฉพาะสารที่ได้รับการอนุมัติในรายการสารที่อนุญาตให้ใช้ในอาหารอินทรีย์

5. ระบบการรับรองและการควบคุม:

- การตรวจสอบและรับรอง: ต้องมีระบบการตรวจสอบโดยบุคคลที่สามเพื่อรับรองว่าผลิตภัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐานอินทรีย์

- การติดตามและตรวจสอบย้อนกลับ: ต้องมีระบบการบันทึกข้อมูลและการตรวจสอบย้อนกลับเพื่อให้มั่นใจในความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ

- การติดฉลาก: ฉลากผลิตภัณฑ์ต้องชัดเจนและตรงตามข้อกำหนดของมาตรฐานอินทรีย์

6. การพัฒนามาตรฐานและการปรับปรุง:

- IFOAM ส่งเสริมให้มีการทบทวนและปรับปรุงมาตรฐานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ

มาตรฐานนี้ยังสนับสนุนการสร้างความสอดคล้องและความเท่าเทียมกันระหว่างมาตรฐานอินทรีย์ในระดับสากล