เกษตรกรรมยั่งยืน
เกษตรกรรมยั่งยืน (Sustainable Agriculture) เป็นรูปแบบการเกษตรที่มุ่งเน้นการผลิตอาหารและผลผลิตทางการเกษตรในระยะยาว โดยไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เกษตรกรรมยั่งยืน (Sustainable Agriculture) คือ ระบบการเกษตรที่ครอบคลุมถึงวิถีชีวิตเกษตรกร กระบวนการผลิต และการจัดการทุกรูปแบบ เพื่อให้เกิดความสมดุลทางเศรษฐกิจสังคม สิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศ ซึ่งนําไปสู่การพึ่งตนเองและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและผู้บริโภค

หลักการของเกษตรกรรมยั่งยืนในประเทศไทย
ความหลากหลายทางชีวภาพ: การปลูกพืชหลายชนิดและเลี้ยงสัตว์หลากหลายสายพันธุ์เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคและศัตรูพืช
การอนุรักษ์ดินและน้ำ: การใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและการสูญเสียน้ำ
การจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน: การใช้วิธีการควบคุมศัตรูพืชหลายวิธีร่วมกันเพื่อลดการใช้สารเคมี
การหมุนเวียนทรัพยากร: การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การหมุนเวียนสารอาหารในดินและการใช้น้ำอย่างประหยัด
การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: การเลือกพืชและสัตว์ที่ทนทานต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

เกษตรกรรมยั่งยืน (Sustainable Agriculture) เป็นรูปแบบการเกษตรที่มุ่งเน้นการผลิตอาหารและผลผลิตทางการเกษตรในระยะยาว โดยไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีหลายรูปแบบที่สามารถนำมาใช้ในการปฏิบัติจริง ซึ่งแต่ละรูปแบบมีหลักการและวิธีการที่แตกต่างกันไป แต่มีเป้าหมายร่วมกันคือการสร้างความสมดุลระหว่างการผลิตทางการเกษตรกับการรักษาสิ่งแวดล้อม

รูปแบบเกษตรกรรมยั่งยืนที่สำคัญ
1. เกษตรอินทรีย์ (Organic Farming)

หลักการ: ไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ เช่น ปุ๋ยเคมี สารกำจัดศัตรูพืช และฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต
วิธีการ: ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และการควบคุมศัตรูพืชด้วยวิธีธรรมชาติ
ประโยชน์: ลดการปนเปื้อนของสารเคมีในสิ่งแวดล้อมและอาหาร ส่งเสริมสุขภาพของดินและเกษตรกร

2. เกษตรผสมผสาน (Integrated Farming)
หลักการ: การรวมกิจกรรมทางการเกษตรหลายอย่างเข้าด้วยกัน เช่น การปลูกพืช การเลี้ยงสัตว์ และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
วิธีการ: ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้มูลสัตว์เป็นปุ๋ยสำหรับพืช และการใช้พืชเหลือทิ้งเป็นอาหารสัตว์
ประโยชน์: เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ลดความเสี่ยงจากโรคและศัตรูพืช เพิ่มรายได้จากหลายแหล่ง

3. เกษตรธรรมชาติ (Natural Farming)
หลักการ: การทำเกษตรโดยเลียนแบบธรรมชาติ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น
วิธีการ: ไม่ไถพรวนดิน ใช้ปุ๋ยจากพืชและสัตว์ในพื้นที่ ควบคุมศัตรูพืชด้วยวิธีธรรมชาติ
ประโยชน์: รักษาสุขภาพของดิน ลดต้นทุนการผลิต ส่งเสริมระบบนิเวศท้องถิ่น

4. เกษตรทฤษฎีใหม่ (New Theory Agriculture)
หลักการ: การจัดการที่ดินและน้ำอย่างมีประสิทธิภาพตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
วิธีการ: แบ่งที่ดินออกเป็นส่วน ๆ สำหรับปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และกักเก็บน้ำ
ประโยชน์: สร้างความมั่นคงทางอาหารและรายได้ ลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ

5. วนเกษตร (Agroforestry)
หลักการ: การปลูกพืชเกษตรร่วมกับไม้ยืนต้น
วิธีการ: ปลูกพืชเกษตรใต้ร่มไม้ยืนต้น หรือปลูกไม้ยืนต้นในพื้นที่เกษตร
ประโยชน์: เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ อนุรักษ์ดินและน้ำ สร้างรายได้จากทั้งพืชเกษตรและไม้ยืนต้น

6. เกษตรประณีต (Precision Agriculture)
หลักการ: การใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
วิธีการ: ใช้ GPS, IoT, และข้อมูลสภาพอากาศเพื่อจัดการการปลูกพืชและการใช้น้ำ
ประโยชน์: ลดการใช้ทรัพยากร เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนการผลิต

7. เกษตรกรรมยั่งยืนบนที่สูง (Highland Sustainable Agriculture)
หลักการ: การทำเกษตรในพื้นที่สูงโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่น
วิธีการ: ปลูกพืชเมืองหนาวและพืชท้องถิ่น ใช้ระบบน้ำหยด และการอนุรักษ์ดิน
ประโยชน์: ลดการชะล้างพังทลายของดิน เพิ่มรายได้ให้กับชุมชนบนที่สูง

เกษตรกรรมยั่งยืนจึงเป็นแนวทางที่สำคัญในการสร้างความสมดุลระหว่างการผลิตอาหารและการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การเกษตรสามารถดำเนินการได้อย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับธรรมชาติ

ที่มา
ภาพประกอบ : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เอกสารประกอบ

เกษตรกรรมยั่งยืน - sustainablea_agriculture.pdf

PGS นครศรีธรรมราช
ศูนย์เรียนรู้

เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ PGS นครศรีธรรมราช ขับเคลื่อนโดย สมาคมอาหารธรรมชาติยั่งยืน นครศรีธรรมราช

รายละเอียด >>

  • ที่อยู่ : ตำบลควนกลาง อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช
  • โทร : 0816577283